วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประโยชน์ฟักทอง

ประโยชน์ดีๆจากฟักทอง (Pumpkin) 

หนึ่งในพืชสีเหลืองที่เรามักจะเห็นคนนำมาประกอบอาหารอยู่บ่อยๆก็คือ "ฟักทอง" นั่นเอง เพราะฟักทองสามารถประกอบอาหารคาว-หวานได้สารพัดเมนู จึงไม่แปลกที่ฟักทองจะเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายคน
ฟักทองเป็นพืชตระกูลมะระชนิดไม้เถาขนาดใหญ่
ผิวมีลักษณะขรุขระ เนื้อในสีเหลืองนิ่ม มีเมล็ดสีขาวแบนๆติดอยู่ ซึ่งแต่ละส่วนของฟักทองมีสรรพคุณทางมากมาย

เนื้อฟักทอง
มีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง และที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ "เบต้าแคโรทีน" ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ แถมเบต้าแคโรทีนยังช่วยต้านความชรา ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่าและบั้นเอวได้เป็นอย่างดี

เปลือกฟักทอง
มีฤทธิ์ทางยามากมาย หากทานฟักทองทั้งเปลือกจะสามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกายซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายไปให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใบอ่อน
มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง แต่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ

ดอก
มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส มีวิตามินซีเล็กน้อย

เมล็ด
ประกอบด้วยแป้ง ฟอสฟอรัส โปรตีน และวิตามิน รวมทั้งสารที่ชื่อว่า "คิวเคอร์บิติน" (Cucurbitine) ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิตัวตืดได้ดี และยังช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ่ว มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้น้ำมันจากเมล็ดฟักทองยังช่วยบำรุงประสาทได้ดี และยังมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายขยายใหญ่ขึ้น และช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายที่ได้จากลูกอัณฑะให้อยู่ในระดับปกติ

ราก
น้ำมาต้มน้ำ ใช้ดื่มแก้อาการไอได้ และยังช่วยบำรุงร่างกาย ถอนพิษของฝิ่นได้

เยื่อกลางผล
สามารถนำมาพอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อาการปวด อักเสบได้

ฟักทอง อาหารเพื่อคุณผู้หญิง
และสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนัก ฟักทองนี่แหละค่ะคือ "ตัวช่วย" ที่ดีตัวหนึ่งเลยทีเดียว เพราะฟักทองเป็นพืชที่มีกากใยมาก และมีแคลอรีไม่สูง ไขมันน้อย จึงไม่ทำให้อ้วน นอกจากนี้ในฟักทองมีวิตามินหลายชนิดในปริมาณสูง จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณของคุณสาวๆมีน้ำมีนวล แถมสายตายังดูปิ๊งอีกต่างหาก นอกจากนี้สำหรับสตรีหลังคลอดบุตร ฟักทองซึ่งมีฤทธิ์อุ่นจะช่วยย่อยอาหาร ทำให้กระเพาะอุ่น บำรุงกำลัง ลดอาการอักเสบ แก้ปวดได้อีกด้วย

ข้อควรระวังในการทานฟักทอง
เนื่องจากฟักทองมีฤทธิ์อุ่น ดังนั้นคนที่ "กระเพาะร้อน" คือมีอาการเช่น กระหายน้ำ ปากเหม็น หิวง่าย ปัสสาวะเหลือง ท้องผูก เป็นแผลในช่องปาก เหงือกบวม ไม่ควรทานฟักทองมากเกินไป เพราะอาจกระตุ้นให้ร่างกายร้อนขึ้นได้นั่นเอง หรือแม้แต่ในคนปกติ การทานฟักทองมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้องได้เช่นกัน
 เเหล่งอ้างอิง: http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=2bdd3c444e608c53

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น