วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

ไดอารี่ของฉัน วันนี้ฉัน....'

ฉันตื่นเวลา 06:30 แล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว มารับประทานอาหารกับแม่ วันนี้ฉันทานข้าวกับหมูปิ้งเสร็จแล้ว มารอรถนักเรียนที่หน้าบ้านของฉัน รถมารับเวลา 07:30 มาถึงโรงเรียนก็เข้าแถวเคารพธงชาติพอดี วันนี้ฉันร้องเพลงชาติดังมาก พอเข้าห้องฉันก็ถูห้อง เสร็จจึงมานั่งฟังครูกรรณิการ์อบรม แล้วจึงเรียนคาบต่อไป พอถึงตอนเย็นก็ขึ้นรถกลับบ้าน ถึงบ้านทำการบ้านแล้วจึงเข้านอน zzZZ

เทคนิคอ่านหนังสือให้จำในเวลาจำกัด

                                                 เทคนิคอ่านหนังสือให้จำในเวลาจำกัด

เมื่อมีทัศนคติที่ดีต่อการอ่านหนังสือแล้ว ก็ต้องมาสร้างแรงจูงใจในการอ่านหนังสือด้วย แรง จูงใจจะเป็นตัวผลักดัน และกระตุ้นให้เพื่อนๆ มีความอยากในการอ่านหนังสือ วิธีการสร้างแรงจูงใจก็คือพยายามคิดถึงผลที่จะเกิดขึ้น ถ้าเราอ่านหนังสือสำเร็จ เช่น ถ้าเราตั้งใจอ่านหนังสือและเตรียมความฟิตให้ตัวเองจนพร้อมแล้ว เราก็สามารถตะลุยข้อสอบได้ ผลก็คือได้คะแนนเป็นที่น่าพอใจ จากจุดนี้ก็จะทำให้เพื่อนๆ ได้เกรดสูงๆ

   พยายามสรุปเรื่องที่เราอ่านแล้วจำเป็นรูปภาพ ปกติ แล้วมนุษย์จะจำเรื่องราวทั้งหมดเป็นรูปภาพ หลายๆ วิชาที่ไม่มีรูปภาพประกอบทำให้เราอ่านแล้วไม่สามารถจินตาการ หรือจดจำได้ ให้เพื่อนๆ สรุปเรื่องที่เราอ่านแล้ว นำมาทำเป็น My map เพื่อเชื่อมโยงในส่วนที่สัมพันธ์กัน และวาดให้เป็นความเข้าใจของตัวเอง จะทำให้จำได้แม่นขึ้น

   หาเวลาติวให้เพื่อน เป็น วิธีการทบทวนความรู้ไปในตัวได้ดีที่สุด เพราะเราจะสอนออกมาจากความเข้าใจของตัวเราเอง หากติวแล้วเพื่อนที่เราติวให้เข้าใจ ถือว่าเราแตกฉานในความรู้นั้นได้อย่างแท้จริง

เน้นการตะลุยโจทย์ให้เยอะๆ พยายามหาข้อสอบย้อนหลังมาทำให้ได้มากที่สุด เพราะการตะลุยโจทย์จะทำให้เราจำได้ง่ายกว่าการอ่านเนื้อหา

เตรียมตัว และให้ความสำคัญในการอ่านหนังสือในวิชาที่เราถนัดมากกว่าวิชาที่ดันไม่ขึ้น เพื่อนๆ หลายคนเข้าใจผิด ไปทุ่มเทเวลาให้กับวิชาที่เราไม่ถนัด วิชาไหนที่เราไม่ถนัด ดันยังไงมันก็ไม่ขึ้น เสียเวลาเปล่า เอาเวลาไปทุ่มให้กับวิชาที่เราทำได้ให้ชัวร์ดีกว่า จะได้เอาคะแนนไปถัวเฉลี่ยกับวิชาอื่นๆ แบบนี้เข้าท่ากว่าเยอะนะ

สมาธิเป็นสิ่งสำคัญมากในการอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือให้มีประสิทธิภาพ  ต้องมีสมาธิดี ใครที่สมาธิสั้น  จะจำยาก  ลืมง่าย ใครสมาธิดี  จะจำง่าย  ลืมยาก การอ่านหนังสือ  ต้องอ่านต่อเนื่องอย่างน้อย ชั่วโมงครึ่ง  30  นาทีแรกจิตใจของเรากำลังฟุ้ง ให้พยายามปรับให้นิ่ง 60  นาทีหลัง  ใจนิ่งมีสมาธิแล้ว ก็พร้อมรับสิ่งใหม่ เข้าสู่สมอง ที่สำคัญอย่าเอาขยะมาใส่หัว  ห้ามคิดเรื่องพวกนี้ซักพัก เช่น เรื่องหนัง , เกม , แฟน  พยายามออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้จิตใจเรานิ่งขึ้น 

แหล่งอ้างอิง :http://blog.eduzones.com/forwardmail/37622

10 วิธีแก้ง่วงยามบ่าย



                                                                10 วิธีแก้ง่วงยามบ่าย

              ที่เรามักรู้สึกง่วงหลังจากกินอาหารมื้อกลางวัน เป็นเพราะระหว่างที่อวัยวะภายในกำลังย่อยหรือดูดซึมอาหาร เลือดส่วนใหญ่ถูกลำเลียงลงมาสู่อวัยวะส่วนล่าง ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลง การทำงานของสมองในช่วงนี้จะไม่ค่อยเฉียบไวเท่าที่ควร จนอาจทำให้งานชะงักได้ เราจึงนำเคล็ดลับแก้ง่วงยามบ่ายมาฝากกัน

1. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต และหันไปกินอาหารที่มีโปรตีนและเส้นใยสูงแทน เช่นเวลาสั่งข้าวผัด ให้คนขายใส่ข้าวลดลง หรือก๋วยเตี๋ยวก็ใส่ผักเยอะๆ เส้นน้อนๆ
2. ลดปริมาณอาหารลง เพื่อให้ระบบการย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนักเกินไป และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นพลังงานให้คุณ ถ้ากลัวไม่อิ่ม ให้เปลี่ยนไปกินปริมาณน้อยลงแต่ถี่ขึ้น
3. เดินย่อยหลังมื้อกลางวันประมาณ 5 นาที จะช่วยให้ระบบการย่อยทำงานดีขึ้นในเวลางาน หาโอกาสลุกเดินอย่างน้อยชั่วโมงละครั้งเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองและแขนขามากขึ้น
4. ลองเปลี่ยนมากินอาหารว่างที่มีประโยชน์อย่างไข่ต้ม โยเกิร์ต ธัญพืชต่างๆ (เช่นเมล็ดฟักทอง ถั่ว งา ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงประสาทและทำให้จิตใจแจ่มใส) งานวิจัยจากสหรัฐระบุว่า ถั่วหลายชนิดและเม็ดมะม่วงหิมพานต์มีแบคทีเรียที่สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของโรคฟันผุ และยังสามารถประยุกต์ใช้กับโรคอื่นๆ ได้อีก เช่น กำจัดเชื้อโรคที่พบในสิว วัณโรคและโรคเรื้อน
5. หลีกเลี่ยงของว่างที่มีน้ำตาลสูงหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทั้งในช่วงสายและบ่าย เพราะยิ่งทำให้คุณเซื่องซึมไปกันใหญ่
6. เมื่อเริ่มรู้สึกอ่อนเปลี้ย (ง่วงระยะแรก) ลองดื่มน้ำสะอาดแก้วโตสักแก้ว พยายามจิบน้ำเปล่าตลอดวัน หรืออาจดื่มน้ำขิงก็ได้ถ้าอากาศเย็น
7. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดขึ้นเพื่อช่วยให้ระบบการย่อยทำงานดีขึ้น แถมยังช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้น (ลดความอ้วนได้อีกต่างหาก) มีสมาธิ และผ่อนคลายมากขึ้นด้วย
8. ถ้าคุณบริโภควิตามินรวมหรือวิตามินบีคอมเพลกซ์อยู่แล้ว ลองกินอาหารเสริมเหล่านี้พร้อมกับมื้อกลางวัน เพื่อให้ประโยชน์จากวิตามินช่วยบรรเทาความง่วงเหงาอีกส่วนหนึ่ง
9. นอนพักผ่อนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน จำไว้ว่าถ้านอนไม่พอตอนกลางคืน ไม่ว่าอะไรก็ฉุดให้คุณตื่นยามบ่ายไม่ได้
10. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นอีกทางที่ช่วยเติมพลังการทำงานให้คุณอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้คุณรู้สึกกระปี้กระเปร่า กระตือรือร้น ลองหาเวลาออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง (ครั้งละไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง) โดยอาจเริ่มจากการวิ่ง ว่ายน้ำ ฝึกโยคะและเดินเร็ว

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

แนะนำตัว



ประวัติของฉัน

ชื่อ เด็กหญิง พนิตพิชา เชียงเครือ          ชื่อเล่น แนน 

เกิดวันพฤหัสบดี  ที่ 10 กันยายน  พ.ศ. 2541      

กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนดอกคำใต้วิทยาคม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2


คติประจำใจคือ


"If อย่าเพิ่งท้อแท้ในสิ่งที่ยังไม่พยายาม และอย่าเพิ่งหมดหวังในสิ่งที่ยังไม่เริ่มต้น