8 ผักสวนครัวมากประโยชน์
หากใจรักการปลูกต้นไม้ใบหญ้าละก็ แนะนำให้ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้กินค่ะ
เพราะบางต้นสวยด้วย กินได้ด้วย ประโยชน์ครบถ้วนด้วย
ไปดูผักสวนครัวถ้ามีรั้วก็ปลูกได้ จะเลือกผักหรือเลือกต้นไม้แบบไหนนั้น
หลักการเลือกคือต้อง "ง่าย" ปลูกง่าย ดูแลง่าย กินง่าย และได้รับประโยชน์ไปอย่างง่าย
ๆ ไม่ซับซ้อน... มาดูผักตระกูลง่าย ๆ กัน
1.มะเขือเทศ
ประโยชน์
มะเขือเทศเป็นราชินีของวิตามินซี
เมื่อเทียบกับมะเขือเทศขนาดปานกลางจะมีปริมาณวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งผล
แถมยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ ไลโคปีน มีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้
และมะเร็งต่อมลูกหมาก และสำหรับสาว ๆ เรื่องบิวตี้มะเขือเทศก็เป็นนางเอกชั้นดี
เพราะเครื่องสำอางหลายเจ้าก็มีส่วนผสมของมะเขือเทศ วิธีง่าย ๆ
อย่างใช้น้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรือใช้มะเขือเทศผ่านบาง ๆ
จะช่วยสมานผิวหน้าให้เต่งตึง ลดริ้วรอย ผิวนุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ผิวหน้าอ่อนนุ่มด้วยการแปะลงบนหน้า
2.สะระแหน่
ประโยชน์
ช่วยขับเหงื่อและความร้อน ขับพิษไข้ หรือใช้ใบสด ๆ
นำมาตำให้ละเอียดพอกบริเวณที่แมลงสัตว์กัดต่อย หากมีอาการบิด หรือท้องร่วง
ใช้ใบสดต้มดื่มแต่น้ำ และถ้าใช้สะระแหน่สดบดแล้วทาบนผิวจะช่วยไล่ยุงได้ ส่วนกลิ่นของสะระแหน่
หากนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยมีส่วนช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ได้
3.มะกรูด
ประโยชน์
เริ่มต้นที่การนำใบมะกรูดมาเป็นเครื่องแกงค่ะ
ช่วยดับกลิ่นคาวในอาหาร และช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้
หรือจะช่วยบรรเทาอาการเลือดออกตามไรฟันด้วยการนำใบสด ๆ มาถูฟัน
หรือมีเวลามากหน่อยอยากได้น้ำมะกรูดจิบระหว่างวัน ก็ผ่านเปลือกบาง ๆ
นำไปชงในน้ำเดือด ใส่การบูรลงไปเล็กน้อย จะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะได้
และปิดท้ายเรื่องความสวยงามหากเวลาน้อยแต่อยากมีผมที่ดกดำ
และยังช่วยกำจัดเชื้อราบริเวณหนังศีรษะได้อีกด้วย
4.พริก
ประโยชน์
พริกมีวิตามินซีสูง เบต้าแคโรทีนหรือวิตามินเอ และกรด Ascorbic มีส่วนช่วยขยายเส้นเลือดในลำไส้ ช่วยในการดูดซึมอาหารให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ในพริกยังมีสาร Capsaicin สารที่ให้ความเผ็ด
และคุณสมบัติช่วยลดความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อต่าง ๆ
และเดี๋ยวนี้มีรูปแบบครีมหรือโลชั่นแล้ว
ระหว่างวันหากรู้สึกปวดเมื่อยลองทาครีมหรือโลชั่นส่วนผสมจากพริกดูนะคะ
ช่วยคลายความปวดเมื่อยได้
5.ผักชี
ประโยชน์
กลิ่นไม่ดีแต่ช่วยให้เจริญอาหารได้นะคะ รักษาอาการหวัด ละลายเสมหะ
ขับเหงื่อและขับลม ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ โดยใช้ต้นผักชีสด ๆ
หรือผักชีตากแห้งนำไปต้มกับน้ำ คั้นเอาเฉพาะน้ำและดื่มจิบระหว่างวัน
6.กะเพรา
ประโยชน์
ช่วยขับลมบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ วัยเบบี๋ใช้ใบกะเพรา 1
ใบ ตำให้ละเอียดแล้วเติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
จากนั้นใช้สำลีชุบ 1-2 หยดให้ลูกกิน ช่วยขับขี้เทาได้ด้วยค่ะ
หรือถ้าเป็นเด็กโตใช้ใบกะเพราสดขยี้แล้วทาที่ท้อง
ส่วนคุณแม่หลังคลอดใส่ใบกะเพราลงในแกงเลียงจะช่วยป้องกันอาการท้องอืด
แนะนำว่าเป็นกะเพราแดงจะมีฤทธิ์แรงกว่ากะเพราชนิดอื่น
มื้อนี้คงไม่เบื่อกะเพรากันแล้ว
7.มะเขือเปราะ
ประโยชน์
มะเขือเปราะถึงจะมีรสชาติออกขมและเฝื่อนสำหรับบางคนที่บอกตรงกันว่ากินยาก
แต่มะเขือมีประโยชน์มากมายค่ะ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
ฆ่าเชื้อแบคทีเรียขับปัสสาวะ และขับลมในร่างกาย มีประโยชน์ต่อตับอ่อน
และช่วยบรรเทาอาการโรคเบาหวาน
เพราะมีสรรพคุณคล้ายกับอินซูลินช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด
สำหรับคนที่ต้องการจะเริ่มต้นกิน หากยังกินแบบสดไม่ได้
ให้เลือกที่ใส่ลงในแกงก่อนนะคะ จะได้กินง่ายไม่ฝืนเกินไป
8. ปูเล่
ประโยชน์
ปูเล่มากด้วยเบต้าเคโรทีน
มีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจขาดเลือด
และเบต้าเคโรทีนยังมีจุดเด่นเรื่องการบำรุงสายตาและผิวพรรณให้สดใสอยู่เสมอ
นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
และโรคหวัดด้วย แถมด้วยแคลเซียมด้วยนะคะ ประโยชน์มากโข ไม่มีปลูกไว้ไม่ได้แล้ว
แหล่งอ้างอิง :http://health.kapook.com/view40857.html
เริ่มต้นที่การนำใบมะกรูดมาเป็นเครื่องแกงค่ะ ช่วยดับกลิ่นคาวในอาหาร และช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ หรือจะช่วยบรรเทาอาการเลือดออกตามไรฟันด้วยการนำใบสด ๆ มาถูฟัน หรือมีเวลามากหน่อยอยากได้น้ำมะกรูดจิบระหว่างวัน ก็ผ่านเปลือกบาง ๆ นำไปชงในน้ำเดือด ใส่การบูรลงไปเล็กน้อย จะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะได้ และปิดท้ายเรื่องความสวยงามหากเวลาน้อยแต่อยากมีผมที่ดกดำ และยังช่วยกำจัดเชื้อราบริเวณหนังศีรษะได้อีกด้วย
ช่วยขับลมบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ วัยเบบี๋ใช้ใบกะเพรา 1 ใบ ตำให้ละเอียดแล้วเติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา จากนั้นใช้สำลีชุบ 1-2 หยดให้ลูกกิน ช่วยขับขี้เทาได้ด้วยค่ะ หรือถ้าเป็นเด็กโตใช้ใบกะเพราสดขยี้แล้วทาที่ท้อง ส่วนคุณแม่หลังคลอดใส่ใบกะเพราลงในแกงเลียงจะช่วยป้องกันอาการท้องอืด แนะนำว่าเป็นกะเพราแดงจะมีฤทธิ์แรงกว่ากะเพราชนิดอื่น มื้อนี้คงไม่เบื่อกะเพรากันแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น